PRP: Platelet-Rich Plasma คืออะไร?
PRP: Platelet-Rich Plasma คืออะไร?
Platelet-rich plasma (PRP) เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมในการรักษาผมร่วง โดยเป็นการรักษาที่ไม่ต้องผ่าตัดและไม่มีการทำแผล PRP คือการสกัดเอาเกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้นสูงจากพลาสม่า ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษในการกระตุ้นการสร้างเซลล์ และส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผม โดยกระบวนการนี้ใช้สารจากเลือดของผู้ป่วยเอง ทำให้มีความปลอดภัยและลดความเสี่ยงในการเกิดอาการแพ้หรือการติดเชื้อ

ส่วนประกอบและคุณสมบัติของ PRP
PRP เป็นพลาสม่าในเลือดที่มีเกล็ดเลือดเข้มข้น ซึ่งประกอบด้วยสารต่างๆ ที่เรียกรวมกันว่า Growth Factors หรือปัจจัยที่กระตุ้นการเจริญเติบโต สารเหล่านี้ทำหน้าที่กระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นเลือดและการแบ่งตัวของเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของเส้นผม นอกจากนี้ยังช่วยในการฟื้นฟูเซลล์รากผมที่ถูกทำลาย ส่งผลให้เส้นผมงอกขึ้นและเส้นผมมีความหนาและแข็งแรงมากขึ้น เมื่อทำการฉีด PRP เข้าไปในหนังศีรษะ เซลล์รากผมจะได้รับสารอาหารที่จำเป็นในการเติบโตและฟื้นฟู ทำให้สามารถเพิ่มจำนวนเส้นผมได้อย่างเห็นผลในระยะเวลา 3-6 เดือนหลังการฉีด
กระบวนการในการเตรียม PRP
การเตรียม PRP เริ่มต้นด้วยการเจาะเลือดจากผู้ป่วย โดยจะเจาะเลือดประมาณ 10-20 มิลลิลิตรจากหลอดเลือดดำที่แขน จากนั้นนำเลือดไปปั่นด้วยเครื่องปั่นเหวี่ยงที่ความเร็ว 1400 rpm เป็นเวลาประมาณ 8 นาที เพื่อแยกเกล็ดเลือดและสารต่างๆ ในพลาสม่า เมื่อได้ PRP ที่มีความเข้มข้นสูง จะนำไปฉีดเข้าสู่หนังศีรษะในบริเวณที่มีปัญหาผมร่วงหรือผมบาง กระบวนการนี้จะช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูของเซลล์รากผมและการสร้างเส้นผม
ข้อดีและข้อจำกัดในการใช้ PRP สำหรับการรักษาผมร่วง
การใช้ PRP สำหรับการรักษาผมร่วงมีข้อดีหลายประการ เนื่องจากเป็นวิธีที่ปลอดภัยและไม่ต้องผ่าตัด ผู้ป่วยสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน นอกจากนี้ PRP ยังช่วยกระตุ้นการสร้างเส้นผมและลดการหลุดร่วงของเส้นผมเดิมอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม การรักษาด้วย PRP อาจมีข้อจำกัดสำหรับผู้ป่วยบางกลุ่ม เช่น ผู้ที่เป็นมะเร็ง หรือมีโรคผิวหนังบางประเภท
การเตรียมตัวก่อนและหลังการฉีด PRP
ก่อนการทำ PRP ผู้ป่วยควรเตรียมตัวโดยการหลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีไขมันสูงและควรงดสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 4 สัปดาห์ก่อนการรักษา ควรดื่มน้ำให้เพียงพอและพักผ่อนให้เพียงพอ โดยการนอนหลับให้ได้ 8 ชั่วโมง ก่อนวันนัดฉีด 1 วัน นอกจากนี้ควรงดใช้ยา NSAID (เช่น ไอบูโพรเฟนหรือแอสไพริน) ก่อนและหลังการฉีด PRP เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ และควรงดทำสีผมอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ก่อนการฉีด
หลังการฉีด PRP อาจมีอาการปวดตึงหรือบวมบริเวณหนังศีรษะ ซึ่งสามารถบรรเทาได้ด้วยการประคบเย็นใน 15 นาทีแรกหลังการฉีดและการดื่มน้ำมากๆ หากมีอาการปวดมากสามารถทานยาแก้ปวดพาราเซตามอลได้ แต่โดยทั่วไปแล้วอาการจะหายไปได้เองในเวลาไม่กี่วัน
หลังจากการทำ PRP ผม ควรงดการสระผมหรือให้ผมโดนน้ำ รวมถึงไม่ควรใช้เจลหรือสเปรย์แต่งผม ควรงดการออกกำลังกายหนักเป็นเวลา 12-24 ชั่วโมงเพื่อหลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือนต่อบริเวณที่ทำการฉีด และควรงดดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่หลังการทำ PRP 24 ชั่วโมง
ผลลัพธ์จากการทำ PRP
การทำ PRP จะเห็นผลชัดเจนในช่วงระยะเวลา 3-6 เดือนหลังการทำ โดยในระหว่างนี้จะมีเส้นผมงอกขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เส้นผมที่งอกขึ้นจะมีความหนาและแข็งแรงขึ้น การทำ PRP จะช่วยเพิ่มความหนาให้กับเส้นผมและลดการหลุดร่วงในผู้ที่มีผมบาง