Hair transplant techniques: Which one is right for you?

เทคนิคการปลูกผม เลือกแบบไหนให้เหมาะกับคุณ?


07/03/2025
07/Mar/2025 12:00 PM

เทคนิคการปลูกผม เลือกแบบไหนให้เหมาะกับคุณ?

ปัจจุบันการปลูกผมถาวรเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมบางหรือศีรษะล้าน โดยหนึ่งในเทคนิคที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ FUE (Follicular Unit Extraction) ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ Basic FUE, Advance FUE และ DHI FUE โดยแต่ละเทคนิคมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป ดังนี้

1. Basic FUE

 ลักษณะการปลูก:

  • ใช้ forceps ในการปลูก 

 ข้อดี:

  • กราฟบอบช้ำน้อย มีโอกาสรอดสูง
  • สามารถปลูกได้กับทุกสภาพเส้นผม

 ข้อเสีย:

  • อาจเกิดสะเก็ดแผลมากกว่าวิธีอื่น
  • แผลหายช้ากว่าวิธีอื่น

2. Advance FUE

 ลักษณะการปลูก:

  • ใช้ forceps ในการปลูก พร้อมกับ การตกแต่งกราฟ (Trim Graft)

ข้อดี:

  • ได้ผลลัพธ์ที่มีความหนาแน่นใกล้เคียงกับเส้นผมธรรมชาติ
  • ใช้รากผมจาก Donor Site อย่างมีประสิทธิภาพ เหลือพื้นที่สำหรับการปลูกซ้ำในอนาคต
  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาศีรษะล้านเป็นบริเวณกว้างแต่มี Donor Site จำกัด

 ข้อจำกัด:

  • หากเส้นผมอ่อนแอหรือเปราะบาง อาจไม่สามารถตกแต่งกราฟได้มาก

3. DHI FUE (Direct Hair Implantation)

 ลักษณะการปลูก:

  • ใช้ ปากกานำปลูก (Implanter Pen) โหลดกราฟผมเข้าไปโดยตรง
  • มีการตกแต่งกราฟอย่างประณีตเพื่อให้สามารถใส่ลงในอุปกรณ์นำปลูกขนาดเล็กได้

ข้อดี:

  • แผลมีขนาดเล็กและบอบช้ำน้อยที่สุด
  • กราฟต์ผมมีโอกาสรอดสูง ไม่หลุดง่าย
  • ระยะเวลาพักฟื้นสั้นกว่าวิธีอื่น
  • ให้ความหนาแน่นของเส้นผมที่ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
  • สามารถกำหนดทิศทางของเส้นผมได้อย่างแม่นยำ

 ข้อเสีย/ข้อจำกัด:

  • ราคาสูง เมื่อเทียบกับเทคนิคอื่น


เปรียบเทียบ FUT และ FUE: แบบไหนที่เหมาะกับคุณ?

คุณสมบัติ

FUT (Strip Harvest)

FUE (Follicular Unit Extraction)

วิธีการปลูกผม

ตัดชิ้นหนังศีรษะออกมาแล้วแยกกราฟ

เจาะเก็บรากผมทีละกอ

แผลเป็น

เป็นเส้นยาว ด้านหลังศีรษะ

เป็นจุดเล็ก ๆ กระจายตัว

ระยะเวลาพักฟื้น

นานกว่า

หายเร็วกว่า

ปลูกได้จำนวนมาก

 ในครั้งเดียว

 อาจต้องทำหลายรอบ

เหมาะกับใคร

คนที่มีปัญหาบริเวณกว้าง

คนที่ต้องการฟื้นตัวเร็ว


สรุป

การปลูกผมถาวรเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมในการแก้ไขปัญหาผมบางและศีรษะล้าน โดยมีสองเทคนิคหลัก ได้แก่ FUT (Strip Harvest Technique) และ FUE (Follicular Unit Extraction)

  • FUT เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกผมจำนวนมากในครั้งเดียว เนื่องจากสามารถเก็บรากผมได้จำนวนมาก แต่มีรอยแผลเป็นเป็นเส้นตรงบริเวณด้านหลังศีรษะ และต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้นนานกว่า
  • FUE เป็นเทคนิคที่ไม่ต้องผ่าตัดชิ้นเนื้อขนาดใหญ่ ทำให้แผลเป็นมีขนาดเล็กและกระจายตัว ฟื้นตัวเร็วกว่า มีหลายรูปแบบ ได้แก่ Basic FUE, Advance FUE และ DHI FUE ซึ่งมีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกันไป

การเลือกเทคนิคที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ลักษณะเส้นผม พื้นที่ที่ต้องการปลูก สภาพของ Donor Site และความคาดหวังของผู้เข้ารับการรักษา การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและคงทนที่สุด 

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปลูกผมและการวางแผนรักษา สามารถติดต่อ Morgen Clinic เพื่อเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ฟรี!

บล็อคที่เพิ่งดูไป