ปลูกผมถาวร

ระยะเวลาที่เห็นผล

หลังจากการปลูกผม ในช่วง 1-3 เดือนแรก ผมที่ปลูกไปอาจมีการร่วงงผัดเซลล์ไปก่อน เส้นผมใหม่จะเริ่มงอกขึ้นในช่วง 3-4 เดือน และจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนภายใน 8-12 เดือนหลังทำ

ข้อควรระวังหลังทำ

หลีกเลี่ยงความร้อน การทำสี หรือใช้สารเคมีต่าง ๆ

ทำไมต้องเลือกปลูกผมที่ Morgen Clinic

เรามีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการปลูกผมโดยใช้เทคนิคที่ทันสมัย มีความพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ทำให้มั่นใจได้ว่าจะได้รับผลลัพธ์ที่น่าพอใจและดูเป็นธรรมชาติ

ผมร่วงมาก อาจเป็นสัญญาณเตือนผมบางหรือหัวล้าน สาเหตุคืออะไร? แก้ไขเบื้องต้นได้อย่างไร?

หากคุณเริ่มสังเกตว่าผมร่วงเยอะผิดปกติ จนเห็นหนังศีรษะชัดเจน เส้นผมดูบางลง อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณกำลังเผชิญภาวะผมบางหรือหัวล้าน ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาที่ส่งผลกระทบทั้งในด้านบุคลิกภาพ ความมั่นใจ และภาพลักษณ์

สาเหตุของผมร่วงและผมบาง มีอะไรบ้าง?

• พันธุกรรม (กรรมพันธุ์) พบได้บ่อยในผู้ชายและผู้หญิง
• ฮอร์โมนแปรปรวน โดยเฉพาะในช่วงตั้งครรภ์ คลอดบุตร หรือวัยหมดประจำเดือน
• ความเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลต่อรากผมและวงจรการเจริญเติบโตของเส้นผม
• การรับประทานอาหารไม่สมดุล ขาดวิตามิน โปรตีน และธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการสร้างเส้นผม
• โรคหรือการใช้ยาบางชนิด เช่น โรคไทรอยด์ หรือยารักษาโรคมะเร็ง

ปลูกผมถาวรได้ผลจริงไหม? เห็นผลแค่ไหนในระยะยาว

หนึ่งในคำถามยอดฮิตของหลายคนที่เริ่มสนใจการรักษาปัญหาผมบางและหัวล้านก็คือ “ปลูกผมถาวรได้ผลจริงไหม?” และ “ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานแค่ไหน?” ซึ่งคำตอบก็คือ ปลูกผมถาวรนั้นได้ผลจริง สามารถแก้ไขปัญหาผมร่วง ผมบาง และหัวล้านได้ เพราะการปลูกผมถาวรเป็นการย้ายรากผมจากบริเวณที่แข็งแรง เช่น ด้านหลังหรือด้านข้างของศีรษะ ไปปลูกยังบริเวณที่ผมบางหรือหัวล้าน โดยรากผมที่ถูกย้ายจะยังคงไม่หลุดร่วงง่าย และสามารถงอกใหม่ได้อย่างเป็นธรรมชาติ

ผลลัพธ์หลังการปลูกผมดีแค่ไหน? ผมใหม่จะหนาและขึ้นจริงหรือไม่

การปลูกผมเป็นการแก้ปัญหาผมร่วงหรือศีรษะล้านที่ให้ผลลัพธ์ค่อนข้างดี โดยทั่วไปแล้ว ผมที่ปลูกไปจะขึ้นจริงและสามารถเจริญเติบโตได้ตามปกติ

ปัจจัยที่มีผลต่อความหนาแน่นและผลลัพธ์

• จำนวนกราฟต์ที่ปลูก: ยิ่งปลูกจำนวนกราฟต์มากเท่าไหร่ ความหนาแน่นของผมก็จะมากขึ้นเท่านั้น
• เทคนิคการปลูกผม: เทคนิค FUE (Follicular Unit Excision) และ FUT (Follicular Unit Transplantation) มีความแตกต่างกันในเรื่องของแผลเป็นและระยะเวลาพักฟื้น แต่ผลลัพธ์เรื่องการงอกของผมไม่ต่างกันมาก
• การดูแลหลังปลูกผม: ถ้าดูแลหลังปลูกผมอย่างเคร่งครัดตามคำแนะนำของแพทย์ ผมที่ปลูกใหม่จะสามารถเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์

ปลูกผมเจ็บไหม? ต้องใช้ยาชาไหม เจ็บแค่ไหนกันแน่

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการปลูกผมคือเรื่องความเจ็บปวด โดยทั่วไปแล้ว การปลูกผมจะมีการใช้ยาชาเฉพาะที่ ซึ่งจะช่วยลดความเจ็บปวดระหว่างการทำหัตถการ

• ช่วงฉีดยาชา: เป็นช่วงที่จะรู้สึกเจ็บได้มากที่สุด คล้ายกับการฉีดยาทั่วไป เจ็บแปปเดียวไม่กี่นาที
• ระหว่างการทำหัตถการ: เมื่อยาชาออกฤทธิ์แล้ว จะไม่รู้สึกเจ็บปวด แต่อาจจะรู้สึกตึง ๆ หรือได้ยินเสียงเครื่องมือได้บ้าง
• หลังยาชาหมดฤทธิ์: หลังจากการปลูกผมเสร็จสิ้นและยาชาหมดฤทธิ์แล้ว บางคนอาจรู้สึกปวดระบมเล็กน้อยบริเวณที่ปลูกหรือบริเวณท้ายทอยที่นำกราฟต์ผมออกมา แพทย์จะมีการจ่ายยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการ

โดยรวมแล้ว การปลูกผมไม่ได้เป็นหัตถการที่เจ็บปวดอย่างที่หลายคนกังวล ระดับความเจ็บอยู่ในระดับที่ทนได้

กราฟผมคืออะไร? ทำไมถึงเป็นตัวแปรสำคัญในราคาการปลูกผม

กราฟต์ผม (Hair Graft) เป็นหน่วยของเส้นผมและเนื้อเยื่อบริเวณรากผมที่ถูกนำมาใช้ในการปลูกผม โดยทั่วไปแล้ว 1 กราฟต์ผมอาจประกอบด้วยเส้นผม 1-4 เส้น ซึ่งกราฟต์เหล่านี้จะถูกย้ายจากบริเวณที่ผมแข็งแรงไปยังบริเวณที่ต้องการปลูก

เหตุผลที่กราฟผมมีผลต่อราคาการปลูกผม

• จำนวนกราฟต์ ที่ใช้ในการปลูกผมขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ต้องการปลูก หากพื้นที่กว้าง จะต้องใช้กราฟมาก ราคาก็จะสูงขึ้นตาม
• คลินิกปลูกผมส่วนใหญ่มักคิดราคาตามจำนวนกราฟต์ เช่น ราคา/กราฟ x จำนวนกราฟที่ใช้
• คุณภาพของกราฟต์ผม เช่น ความแข็งแรงและอัตราการรอดของกราฟต์หลังปลูก ก็ส่งผลต่อราคา

กราฟต์ผมคือหัวใจสำคัญของการปลูกผมถาวร ทั้งในด้านปริมาณที่ต้องใช้และค่าใช้จ่าย โดยการประเมินจำนวนกราฟต์ที่เหมาะสมกับสภาพศีรษะ จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและคุ้มค่าที่สุด

ปลูกผมร่วมกับวิธีรักษาอื่น ๆ ให้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น

การปลูกผมสามารถให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นเมื่อนำมาร่วมกับวิธีการรักษาอื่น ๆ ที่ช่วยเสริมการฟื้นฟูรากผมและกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม โดยวิธีที่นิยมร่วมใช้ ได้แก่

การใช้ยารักษาผมร่วงร่วมกับการปลูกผม

ช่วยชะลอการหลุดร่วงและกระตุ้นให้เส้นผมใหม่งอกขึ้นมาอย่างแข็งแรง

การฉีด PRP กระตุ้นรากผมด้วยเกล็ดเลือดเข้มข้น

เป็นการฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้นเพื่อกระตุ้นรากผมให้แข็งแรงและเพิ่มอัตราการงอกของเส้นผมใหม่

การบำบัดด้วยเซลล์ต้นกำเนิด (Rigenera Activa)

ใช้เซลล์จากหนังศีรษะมาฟื้นฟูเซลล์รากผม ช่วยให้ผมแข็งแรงและหนาขึ้น

การฟื้นฟูรากผมด้วยเลเซอร์ Fotona

เป็นการใช้แสงเลเซอร์กระตุ้นการไหลเวียนเลือดบริเวณหนังศีรษะ ช่วยให้รากผมได้รับสารอาหารมากขึ้นและฟื้นตัวเร็วขึ้น

การใช้หมวกเลเซอร์ LLLT เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม

เป็นอุปกรณ์ที่ใช้แสงเลเซอร์ความเข้มต่ำกระตุ้นรูขุมขน ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดบริเวณหนังศีรษะ ส่งผลให้รากผมแข็งแรงขึ้น ลดการหลุดร่วง และกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม เหมาะสำหรับผู้มีปัญหาผมบาง ศีรษะล้านระยะแรก

ใครเหมาะกับการปลูกผมบ้าง?

- ผู้ที่มีปัญหาศีรษะล้านหรือผมบางเฉพาะจุด
- ผู้ที่มีบริเวณผมด้านหลังหรือด้านข้างศีรษะหนาเพียงพอสำหรับทำกราฟต์
- ผู้ที่สุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง

ใครบ้างที่อาจยังไม่เหมาะกับการปลูกผม?

- ผู้ที่ผมบางทั่วศีรษะและมีเส้นผมสำหรับทำกราฟต์ไม่เพียงพอ
- ผู้ที่มีภาวะผมร่วงที่ยังไม่คงที่ หรือเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น ผมร่วงจากความเครียด หรือการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนชั่วคราว
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวานชนิดควบคุมไม่ได้ หรือปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด

ข้อดีของการปลูกผมถาวรที่คุณควรรู้

- ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและอยู่ได้ถาวร เนื่องจากเป็นการย้ายรากผมของตัวเองมาปลูกใหม่
- ผมที่ปลูกจะเจริญเติบโตได้ตามปกติและไม่หลุดร่วงง่าย
- ช่วยเพิ่มความมั่นใจ และปรับบุคลิกภาพให้ดีขึ้นได้

ข้อจำกัดและสิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจปลูกผม

- ผลลัพธ์ใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะเห็นชัดเจน
- ต้องมีการดูแลหลังปลูกอย่างถูกวิธี
- ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และผลลัพธ์อาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล
- ช่วงแรกอาจจะมีการบวม ช้ำ บริเวณที่ทำการปลูกผมถาวร

ข้อปฏิบัติหลังการปลูกผม เพื่อให้ผลลัพธ์ดีที่สุด

การปลูกผมเป็นหัตถการที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อน และหลังจากปลูกผมแล้ว การดูแลตัวเองอย่างถูกต้องในช่วงแรกถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะส่งผลต่อการยึดเกาะของกราฟต์ผม หากเพิ่งผ่านการปลูกผมถาวรมา นี่คือ 5 ข้อปฏิบัติสำคัญที่คุณควรทำตามอย่างเคร่งครัด

1. ควรนอนในท่าศีรษะยกสูง

ช่วง 2-3 วันแรกหลังการปลูกผม ควรนอนโดยใช้หมอนรองคอหรือหมอนที่ช่วยยกศีรษะให้สูงขึ้น เพื่อลดอาการบวมบริเวณใบหน้าและหนังศีรษะ

2. งดสระผมด้วยตัวเองในช่วงแรก

ควรงดการสระผมใน 3 วันแรก เพราะการขยี้หรือถูแรงเกินไปอาจทำให้กราฟต์ผมหลุดได้

3. งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

สารนิโคตินในบุหรี่และแอลกอฮอล์สามารถส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือด ทำให้แผลหายช้าลง และส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเส้นผมใหม่ ควรงดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์หลังการปลูกผม

4. หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องออกแรง เช่น ยกของหนักหรือก้มศีรษะ

ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ควรงดกิจกรรมที่เพิ่มแรงดันในศีรษะ เช่น การยกของหนัก การออกกำลังกาย หรือแม้แต่การก้มศีรษะ เพราะอาจทำให้แผลเกิดการบวม หรือกราฟต์ผมเคลื่อนหลุดได้

5. เข้าพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง

การเข้าพบแพทย์ตามนัดหมายเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้แพทย์ได้ติดตามผลการปลูกผม ประเมินการฟื้นตัว และให้คำแนะนำเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง หากมีข้อสงสัยหรืออาการผิดปกติใด ๆ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที

การดูแลเส้นผมหลังปลูกในระยะยาว ต้องทำอย่างไร?

หลังจากปลูกผมและผ่านช่วงพักฟื้นแล้ว การดูแลเส้นผมในระยะยาวก็ยังคงเป็นเรื่องสำคัญ หากต้องการให้เส้นผมที่ปลูกใหม่แข็งแรง ดูหนาแน่น และคงผลลัพธ์ได้นานที่สุด ควรดูแลดังนี้

- ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่อ่อนโยน
หลีกเลี่ยงแชมพูที่มีสารเคมีรุนแรง และเลือกใช้แชมพูที่เหมาะกับหนังศีรษะแพ้ง่าย เพื่อป้องกันการระคายเคืองบริเวณที่ปลูกผม

- สระผมด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ
หลีกเลี่ยงน้ำที่ร้อนจัดหรือเย็นจัดเกินไป เพราะอาจส่งผลกระทบต่อหนังศีรษะและกราฟผม

- นวดหนังศีรษะเบา ๆ
ขณะสระผม ให้นวดหนังศีรษะอย่างอ่อนโยน เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด แต่ไม่ควรถูหรือขยี้แรง ๆ

- หลีกเลี่ยงความร้อนและสารเคมี
หลีกเลี่ยงการเป่าผมด้วยความร้อนสูง การย้อม ดัด หรือฟอกสีผมในช่วง 6 เดือนแรก หรือจนกว่าเส้นผมจะแข็งแรงดีแล้ว เพราะอาจทำให้เส้นผมเปราะและหลุดร่วงได้

- ดูแลสุขภาพจากภายใน
การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะโปรตีน วิตามินบี ไบโอติน และธาตุเหล็ก จะช่วยให้รากผมแข็งแรงและกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม

- ดื่มน้ำให้เพียงพอ
การดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว จะช่วยให้ร่างกายและเส้นผมชุ่มชื้น

- พักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัว ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพเส้นผมด้วย

- จัดการความเครียด
ความเครียดเป็นสาเหตุหนึ่งของผมร่วง การจัดการความเครียดจะช่วยรักษาสุขภาพผมที่ดี

- เข้าพบแพทย์เพื่อติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ
แม้จะผ่านช่วงฟื้นตัวแล้ว การเข้าตรวจติดตามกับแพทย์เป็นระยะ จะช่วยให้มั่นใจว่าเส้นผมแข็งแรงดี

ความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการปลูกผม

แม้ว่าการปลูกผมจะเป็นหัตถการที่ปลอดภัยและมีความเสี่ยงต่ำ แต่ก็ยังมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงได้ เช่น

- อาการบวมและรอยแดงบริเวณหนังศีรษะ
พบได้บ่อยในช่วง 3-5 วันแรกหลังปลูกผม และมักหายเองโดยไม่ต้องใช้ยา

- อาการคันหรือสะเก็ดแผลเล็กๆ
เกิดจากกระบวนการสมานแผล อาจทำให้รู้สึกคันบ้าง แต่ห้ามเกาโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้กราฟต์ผมหลุดได้

- การหลุดร่วงของเส้นผมที่ปลูก (Shock Loss)
พบได้บ่อยในช่วงเดือนแรกหลังปลูก เป็นการหลุดร่วงชั่วคราว ก่อนที่เส้นผมจะเริ่มงอกใหม่ในช่วง 3-6 เดือนถัดไป

- การติดเชื้อบริเวณแผล
พบได้น้อย แต่หากมีอาการปวด บวมแดง หรือมีหนอง ควรรีบพบแพทย์ทันที

- ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
เช่น ผมขึ้นไม่เต็มบริเวณ หรือมีความหนาแน่นไม่เท่ากัน ซึ่งอาจต้องประเมินเพื่อปลูกผมเพิ่มเติมในอนาคต

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการปลูกผม

การปลูกผมอันตรายไหม?

โดยทั่วไป การปลูกผมถือเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูงและมีความเสี่ยงต่ำ โดยเฉพาะเมื่อทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของ Morgen Clinic อย่างไรก็ตาม การปลูกผมถาวรก็เหมือนกับหัตถการทางการแพทย์อื่น ๆ ย่อมมีความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้บ้าง แต่ส่วนใหญ่มักไม่รุนแรงและสามารถจัดการได้

ผมร่วงหลังปลูกผม เป็นเรื่องปกติหรือไม่?

เป็นเรื่องปกติ อาการนี้เรียกว่า Shock Loss โดยเส้นผมที่ถูกปลูกจะหลุดร่วงในช่วง 2-4 สัปดาห์แรก ซึ่งเป็นกระบวนการที่ร่างกายกำลังฟื้นฟูตัวเอง หลังจากนั้นเส้นผมจะเริ่มงอกใหม่ภายใน 3-4 เดือน และเห็นผลชัดเจนภายใน 10-12 เดือน

ควรเลือกปลูกผมที่ไหนดี?

ควรเลือก Morgen Clinic เราเป็นหนึ่งในคลินิกที่มีความชำนาญด้านการปลูกผม โดยเน้นความเป็นธรรมชาติและผลลัพธ์ระยะยาว มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านปลูกผมโดยเฉพาะ มีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง ใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน และมีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง

การปลูกผมของผู้หญิง แตกต่างจากผู้ชายอย่างไร?

การปลูกผมของผู้หญิงและผู้ชายมีความแตกต่างกันในหลายด้าน ดังนี้

รูปแบบการร่วงของเส้นผม
- ผู้ชายมักมีอาการศีรษะล้านแบบ M-shape หรือร่นจากหน้าผากและกลางศีรษะ
- ผู้หญิงจะมีลักษณะผมบางทั่วทั้งศีรษะ โดยเฉพาะบริเวณกลางกระหม่อม แต่ไม่ค่อยถึงขั้นศีรษะล้าน

ฮอร์โมนและพันธุกรรม
- ผู้ชายมักมีผมร่วงจากฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชาย
- ผู้หญิงอาจมีผลกระทบจากฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดลง เช่น ช่วงวัยทอง หรือหลังคลอด รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความเครียด หรือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

การเลือกเทคนิคการปลูกผม
- สำหรับผู้ชายเทคนิคที่นิยมคือ FUT (Follicular Unit Transplantation) และ FUE (Follicular Unit Excision) โดยสามารถโกนผมบริเวณท้ายทอยเพื่อเก็บกราฟต์ได้ง่าย
- สำหรับผู้หญิง การโกนผมทั้งศีรษะอาจเป็นเรื่องยากสำหรับผู้หญิงหลายคน ทำให้เทคนิค FUE แบบไม่โกนผม (Non-Shaven FUE) หรือ เทคนิค DHI (Direct Hair Implantation) ที่สามารถปลูกผมได้โดยไม่ต้องโกนผมทั้งศีรษะ เป็นที่นิยมมากกว่า

ผลลัพธ์และการดูแลหลังปลูก
- ผู้ชายมักเห็นผลชัดเจนภายใน 10-12 เดือน
- ผู้หญิงอาจต้องใช้เวลานานกว่า และจำเป็นต้องดูแลสุขภาพเส้นผมควบคู่ไปด้วย เช่น รับประทานวิตามินบำรุง